ไลฟ์สไตล์
รองรับเฉพาะอุปกรณ์มือถือ Android เท่านั้น จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2020 หลังจากนั้นจะพร้อมใช้งานบนพีซี, Mac, อุปกรณ์เคลื่อนที่ Huawei, อุปกรณ์มือถือ Android, Android TV และ Linux พร้อมกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ ขอแนะนำให้ใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตอย่างน้อย 6 Mbps เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คุณสมบัติของบริการอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ต่างๆ
ไฟล์เซฟเกมจะได้รับการจัดการโดยเกมนั้นๆ ประวัติของเกมที่ได้รับการเซฟจะแตกต่างกันไปในแต่ละเกมตามระบบเซฟของเกมนั้นๆ
รองรับโหมดผู้เล่นหลายคนสำหรับหลายๆเกม บางเกมจะอนุญาตให้คุณเล่นในโหมด Co-op หรือแข่งกับเพื่อนของคุณในพื้นที่ผ่านการออนไลน์โดยอยู่ในระหว่างการพัฒนาและจะพร้อมใช้งานเร็วๆนี้ และจะได้รับการอัพเดทเกมใหม่เป็นประจำที่รองรับผู้เล่นหลายคน
ไม่ต้องดาวน์โหลดเกม เนื่องจากเทคโนโลยีการสตรีมทำให้สามารถเล่นเกมได้ทันที เมื่อติดตั้งบริการ AIS 5G Cloud Game บน Blacknut by GAMELOFT แล้วจะไม่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม (แอปนี้ใช้พื้นที่น้อยกว่า 100 MB)
ขอแนะนำตัวคอนโทรลเลอร์ Xbox One หรือคอนโทรลเลอร์ที่มีระบบบลูทูธ โดยต้องเชื่อมต่อผ่านบนมือถือของคุณ
**เกมบางเกมในแคตตาล็อกไม่สามารถใช้งานร่วมกับคอนโทรลเลอร์ได้ทุกประเภทและอาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของคุณ คุณสามารถดูคอนโทรลเลอร์ที่เข้ากันได้กับแต่ละเกมในหน้ารายละเอียดเกม แม้ว่าเกมส่วนใหญ่จะเล่นได้โดยใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ แต่ในบางกรณีขอแนะนำให้ใช้คอนโทรลเลอร์เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด
บริการ AIS 5G Cloud Game ใช้เทคโนโลยีสตรีมมิ่ง (การสตรีมแบบเรียลไทม์) และต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพเพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่ามีเสถียรภาพในระหว่างการเล่นเกม ขอแนะนำให้ใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตอย่างน้อย 6Mbps เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ช้าลงอาจทำให้ข้อมูลสูญหายและคุณอาจพบปัญหาเสียงและวิดีโอผิดพลาด ทุกครั้งที่คุณเปิดแอปพลิเคชัน Blacknut by GAMELOFT การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณจะได้รับการทดสอบเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าการเชื่อมต่อของคุณเหมาะสมหรือไม่
หากคุณกำลังใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้เข้าใกล้กล่องหรือ Router อินเทอร์เน็ตให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้บริการสตรีมมิ่งสองบริการในเวลาเดียวกัน หรือดาวน์โหลดโปรแกรมต่างๆระหว่างเล่นเกม
สามารถสร้างหลายโปรไฟล์ในแอปพลิเคชัน สิ่งนี้ช่วยให้คุณมีโปรไฟล์ที่แตกต่างกันโดยแต่ละโปรไฟล์มีรายการโปรดและรายการเกมที่บันทึกไว้
สามารถจัดการการควบคุมโดยผู้ปกครองได้จากการสร้างโปรไฟล์สำหรับเด็กใน การใช้บริการ AIS 5G Cloud Game บนแอป Blacknut by GAMELOFT
คุณต้องเป็นลูกค้า AIS ที่ใช้ซิมแบบรายเดือนหรือแบบเติมเงิน และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (3G / 4G / 5G) โดยแอปพลิเคชันจะล็อคอินและตรวจสอบให้อัตโนมัติ หากคุณใช้ WI-FI ให้ทำตามขั้นตอนยืนผ่านระบบ OTP โดยใส่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณในแอปจากนั้นจะได้รับรหัส OTP ทาง SMS และนำไปกรอกใส่ในหน้าล็อคอินเพื่อเข้าสู่ระบบ
เข้าเว็บ www.ais.th/5G/CloudGame เพื่อดูข้อมูลการสมัครหรือกด *528# และกดโทรออก เพื่อรับข้อมูล หากคุณสมัครสมาชิกแล้วสามารถเข้าถึงเกมได้โดยตรง ถ้ายังไม่ได้สมัครจะถูกเสนอให้สมัครสมาชิกก่อนถึงจะใช้บริการนี้ได้
สามารถส่งปัญหาผ่านแอปพลิเคชัน Blacknut by GAMELOFT โปรดอธิบายปัญหาที่คุณเจอโดยให้: คำแนะนำทีละขั้นตอน / หมายเลขโทรศัพท์ / อุปกรณ์ / ชื่อเกม / การเชื่อมต่อที่ใช้ (* ใช้ได้หลังวันที่ 1 พฤศจิกายน 2020)
ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2020 กดโทร 1175 AIS Contact Center หลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2020 จะสามารถยกเลิกการสมัครได้โดยตรงจากแอปพลิเคชัน การยกเลิกการสมัครของคุณจะยังคงปล่อยให้ไฟล์บันทึกของคุณเหมือนเดิมและให้คุณเลือกที่จะเล่นต่อในภายหลัง.
หลังจากดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ให้เปิดแอปพลิเคชั่นและผ่านขั้นตอนการเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชั่นจะเสนอให้สมัครสมาชิกยืนยันความประสงค์ที่จะเข้าร่วมบริการ
เข้าใช้ บริการ AIS 5G Cloud Game ราคาละ 299 บาท ต่อเดือน
กรณีที่ชำระเงินก่อนหมดอายุและระบบไม่สามารถขยายได้ โปรดตรวจสอบว่าระบบซิมเติมเงินมีเงินคงเหลือมากกว่า 299 บาทในบัญชีของคุณและรอ 1 วัน เพื่อให้ระบบต่ออายุการใช่งานของคุณ หากยังไม่ได้ผลให้ยกเลิกการสมัครจากแอปและสมัครอีกครั้ง
AIS Shop , Telewiz , AIS Buddy และร้านค้าร่วมรายการทุกสาขา
แจ้งกับหน่วยงานต้นทางที่ลูกค้าทำรายการเข้ามา เช่น ธนาคาร เป็นต้น
กลับไปที่ Application หน่วยงานต้นทางที่ลูกค้าต้องการเปิดบัญชี
หลังทำรายการสำเร็จ ระบบจะส่ง SMS แจ้งลูกค้า พร้อมรายละเอียดวัน เวลาที่ลูกค้าทำรายการเข้ามา
ถ้าทำรายการไปแล้ว ไม่สามารถกลับมาทำรายการยืนยันตัวตนซ้ำได้อีก แนะนำลูกค้าทำรายการให้สำเร็จภายในครั้งเดียว หากไม่สำเร็จต้องกลับไปทำรายการใหม่ที่หน่วยงานต้นทาง
บริการ Mobile ID คือ บริการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนที่ช่วยให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ สามารถใช้แทนบัตรประชาชน เพื่อทำธุรกรรมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้อย่าง ง่าย สะดวก ปลอดภัย โดยหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการในเบื้องต้น จะมีทั้งหน่วยงานราชการ และหน่วยงานเอกชน
1. บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ตการ์ดที่มีรูปภาพและตัวอักษรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และยังไม่หมดอายุ
2. สมาร์ทโฟนพร้อมซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ต้องการลงทะเบียน
1, ผู้ใช้บริการสามารถไปสมัครบริการ Mobile ID ที่ AIS Shop โดยนำสมาร์ตโฟนพร้อมซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ต้องการสมัคร Mobile ID* และบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ
2. พนักงานจะดำเนินการ Dip Chip บัตรประชาชน และถ่ายรูปหน้าตรงให้กับผู้ใช้บริการ
3. ระบบจะส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียน
4. ผู้ใช้บริการคลิ๊ก Link เพื่อเข้าสู่ my AIS Application** เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าไปตั้งค่า Mobile ID PIN (ตัวเลข 6 หลัก)
หมายเหตุ:
* ผู้สมัครจะต้องเป็นเจ้าของหมายเลขที่ต้องการสมัคร Mobile ID (จดทะเบียนเป็นเจ้าของ)
**ถ้าผู้ใช้บริการไม่มี my AIS Application ต้องดำเนินการ Download Application ก่อน
การใช้งาน Mobile ID เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมแบบออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปแสดงตน ด้วยบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว ช่วยป้องกันการละเมิดหรือเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้ Mobile ID ได้ ผ่านแอปพลิเคชันของคู่ค้า แทนการแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการทำธุรกรรม (เช่น การกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน การถ่ายเอกสาร หรือเซ็นรับรองสำเนาเอกสารถูกต้อง)
Mobile ID เป็นบริการที่ใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มกลางอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช. และ สพธอ. ที่ได้เชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการยืนยันตัวตน และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะทำได้เมื่อผู้ใช้บริการซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลให้ความยินยอม (Consent) เท่านั้นนอกจากนี้ แพลตฟอร์มกลางยังถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากล ร่วมกับการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและเทคโนโลยีชีวมิติเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลตัวตนอีกด้วย
ผู้ใช้บริการทั้งในระบบ AIS Prepaid & Postpaid (ยกเว้น GOMO) โดยผู้ใช้บริการจะต้องเป็นบุคคลธรรมดา ผู้มีสัญชาติไทย ที่มีบัตรประชาชน และเป็นผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน ผู้เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ จากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยที่รองรับในแพลตฟอร์ม Mobile ID
ผู้ใช้บริการสามารถสมัครใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ณ ระยะต้น ผู้ใช้บริการจะยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลง PIN ได้ด้วยตัวเองคะ และจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบเมื่อระบบพร้อม ผู้ใช้บริการต้องไปที่ Shop เพื่อดำเนินการขอตั้ง PIN ใหม่ โดยต้องนำบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ และ ซิมการ์ด หมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียน Mobile ID ไว้เพื่อประกอบการขอการตั้ง PIN ใหม่ ผู้ใช้บริการจะได้รับ SMS ให้กับผู้ใช้บริการเพื่อตั้ง PIN ใหม่ด้วยตนเองทาง my AIS Application
ณ ระยะต้น ผู้ใช้บริการจะยังไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองคะ และจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบเมื่อระบบพร้อม
เพื่อความปลอดภัยในการทำใช้งาน Mobile ID ในระยะการใช้งานช่วงต้น ผู้ใช้บริการต้องไปที่ Shop เพื่อดำเนินการขอตั้ง PIN ใหม่ โดยต้องนำบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ และ ซิมการ์ด หมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียน Mobile ID ไว้เพื่อประกอบการขอการตั้ง PIN ใหม่ ผู้ใช้บริการจะได้รับ SMS ให้กับผู้ใช้บริการเพื่อตั้ง PIN ใหม่ด้วยตนเองทาง my AIS Application
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีหลายเลขหมาย จะสามารถสมัคร Mobile ID ได้ทุกเลขหมายตามต้องการ โดยหมายเลขโทรศัพท์ของ AIS ทั้งหมด ต้องจดทะเบียนในนามของผู้ใช้บริการที่ต้องการใช้ Mobile ID
ณ ระยะต้น ผู้ใช้บริการจะยังไม่สามารถยกเลิก Mobile ID ได้คะ และจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบเมื่อระบบพร้อม
ผู้ใช้บริการสามารถสมัครบริการ Mobile ID อีกครั้งได้ที่ AIS Shop โดยนำสมาร์ตโฟนพร้อมซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ต้องการสมัคร Mobile ID และบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อสมัครบริการ
ผู้ใช้บริการต้องดำเนินการสมัคร Mobile ID ใหม่อีกครั้ง โดยนำสมาร์ตโฟนพร้อมซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ต้องการสมัคร Mobile ID และบัตรประชาชนใบใหม่ เพื่อสมัครบริการ
ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานกับการทำธุรกรรมอื่นๆ ได้ โดยไม่ต้องสมัคร Mobile ID ใหม่
Mobile ID จะมีหมดอายุตามวันหมดอายุของบัตรประจำตัวประชาชน
กรณีเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ แต่ใช้ซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์เดิม: ไม่มีผลต่อการใช้งาน Mobile ID และไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน Mobile ID ใหม่ เนื่องจาก Mobile ID เป็นการเชื่อมกับ "เบอร์โทรศัพท์มือถือ" ไม่ได้เชื่อมกับ "เครื่องโทรศัพท์"
กรณีเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือใหม่ (ซิมการ์ดใหม่): ผู้ใช้งานจำเป็นต้องติดต่อเพื่อขอลงทะเบียน Mobile ID กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเบอร์โทรศัพท์มือถือใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก Mobile ID ที่ลงทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการเครือข่ายเดิมจะสิ้นสุดทันทีตามคำขอยกเลิกการใช้งานของเบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งานจำเป็นต้องติดต่อเพื่อขอลงทะเบียน Mobile ID กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก Mobile ID ที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้กับผู้บริการเครือข่ายเดิมจะสิ้นสุดทันทีเมื่อมีการย้ายค่าย
เจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที้ สามารถทำรายการเปลี่ยนสิทธิความเป็นเจ้าของได้ที่สำนักบริการของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดย Mobile ID ที่ทำการลงทะเบียนไว้ของเจ้าของเบอร์เดิมจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
หลังการเปลี่ยนสิทธิแล้ว เจ้าของคนใหม่สามารถลงทะเบียน Mobile ID อีกครั้งได้เลยทันที โดยถึงแม้ว่าจะเป็น Mobile ID ที่เชื่อมกับเบอร์โทรศัพท์หมายเลขเดิมแต่จะผูกกับชุดข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน และใช้การยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานคนใหม่ ซึ่งผู้ใช้งานคนเดิมไม่สามารถใช้งานได้
ผู้ใช้บริการต้องแจ้งขอระงับสัญญาณกับเจ้าของเครือข่าย Mobile ID จะถูกระงับการให้บริการโดยอัตโนมัติ สามารถติดต่อขอซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิมได้ที่สำนักบริการของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่มีผลต่อข้อมูล Mobile ID ที่เคยลงทะเบียนเอาไว้ และไม่จำเป็นต้องทำการลงทะเบียน Mobile ID ใหม่
ผู้ใช้บริการต้องติดต่อเพื่อดำเนินการเปิดใช้บริการตามปกติ Mobile ID จะกลับมาให้บริการได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียน Mobile ID ใหม่
ระบบจะยกเลิก Mobile ID ให้ทันที
สามารถใช้ได้ทุกเครือข่าย และใช้ได้ทั้งระบบ iOS และระบบ Android
mPAY Wallet สามารถเปิดบัญชีใช้งานได้สำหรับคนไทยเท่านั้น คุณต้องมีบัตรประชาชนของประเทศไทย จึงจะใช้งานได้
สำหรับเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน 1 บัตรประชาชน ต่อ 2 บัญชีเท่านั้น
หากมีการเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ แต่ยังคงใช้งานซิมเดิม ไม่ต้องลงทะเบียน mPAY Wallet ใหม่ สามารถ Download Application ลงเครื่องและเปิดใช้งานได้ตามปกติ และเครื่องเก่าจะไม่สามารถใช้งานได้อีก เนื่องจาก mPAY Wallet ผูกติดกับเบอร์มือถือ